ตอนที่ ๒ ล้างป่าช้า

จากฉากประทับใจครั้งแรกที่ป๊าได้เห็นโรงเรียนหลังเล็กท่ามกลางป่าเขา แต่พอมาอยู่ได้สักพัก จึงได้รู้ว่าที่นี่คือ "ป่าช้าเก่า" ของหัวหินนั่นเอง...

ป๊าเป็นคนกลัวผีมากนะคะ เท่าที่จ๋ารู้.  ก็ตอนเด็กๆป๊าชอบชวนจ๋ากับพี่ดิวไปเที่ยวเล่นที่โรงเรียนด้วยกันตอนกลางคืน (ต่อมาภายหลังจึงพึ่งสังเกตได้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่ไม่อยากไปเดินที่โรงเรียนตอนดึกๆคนเดียวนั่นเอง) สมัยก่อนที่โรงเรียนจะมีห้องสำหรับนอนเวรอยู่ด้วย รู้สึกเหมือนที่นอนเวรจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามยุคสมัย นอกจากนี้บ้านของพวกเราก็ยังอยู่ในโรงเรียน อยู่ในบ้านพักครู  พวกเราจึงได้อยู่ในโรงเรียนตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกดิน เรียกได้ว่าอยู่โรงเรียนกันทั้งวันทั้งคืน ๒๔ ชั่วโมง อยู่ตลอดแทบครบ ๓๖๕ วัน ดังนั้นช่วงระยะเวลาที่เราอยู่ในโรงเรียนจึงยาวนานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กตัวเล็กๆ เวลายิ่งเดินช้ากว่าปกติ วัยเด็กจึงเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน และภาพความทรงจำก็จะฝังอยู่ในนั้นอย่างแน่นหนาถาวรเช่นกัน. 

เราเดินผ่านกลางคืนในโรงเรียนบ่อย มักเป็นตอนเย็นย่ำหลังกลับจากเที่ยวเล่นตามประสาเด็กๆเสร็จ และเดินกลับบ้านจากหน้าโรงเรียนมาหลังโรงเรียน (สมัยที่ผู้เขียนอยู่ ด้านหน้าโรงเรียนคือด้านเดียวกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแล้ว แต่เท่าที่ทราบมากสมัยก่อนหน้านี้ ประตูหลังโรงเรียน(ในบ้านพักครู) คือประตูหน้าโรงเรียน ทุกอย่างดูกลับกันไปหมด เห็นจากร่องรอยเสาธงเก่า ที่ทิ้งไว้แต่ฐานที่ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านพักครูได้ สมัยจ๋าเด็กๆพวกเรามักจะเล่นกันแถวๆนี้เป็นประจำ ตอนนั้นยังมีเสาธงเก่าปักอยู่โดยไม่มีธง และความสนุกของเด็กรุ่นพี่ก็คือการเล่าเรื่องผีให้กับน้องๆฟัง

ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนจ๋ายังรู้สึกว่าตัวเองเป็นน้องคนเล็กของกลุ่มเสมอ เพราะจ๋ามักจะเที่ยวเล่นกับพี่ชายตลอด แทบจะเรียกได้ว่าพี่ดิวเลี้ยงจ๋ามาเลยก็ว่าได้ อย่างน้อยก็พักใหญ่ๆตอนจ๋ายังไม่โต เพื่อนของพี่ดิวจึงกลายเป็นสังคมของจ๋าไปโดยปริยาย กลุ่มของพี่ชายเป็นที่รวมตัวของคนที่มีวัยเด็กทโมนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไว้จะทะยอยเล่าวีระกรรมของพี่ๆให้ฟังทีหลัง ก่อนอื่นมาดูกิจกรรมสนุกของพี่ๆที่ได้แกล้งน้องก่อน

ถ้าพูดถึงมิติลี้ลับและเรื่องเล่าผีๆในโรงเรียนหัวหินแล้ว จ๋าคิดว่าคงมีคนรู้อะไรดีๆ และเล่าอะไรได้ดีกว่านี้มาก จ๋าเองก็เป็นคนที่ขี้กลัว และกลัวผีมาก คิดว่ามากกว่าป๊าเยอะ  ดังนั้นการเล่นผีหลอกกับจ๋าจึงเป็นเรื่องสนุกของคนขี้แกล้งมาก  เพื่อนพี่ชายคนหนึ่งที่เป็นลูกครูด้วยกันชอบหลอกแต่งเรื่องผีให้จ๋ากลัว เช่นชี้ไปที่พุ่มไม้ตรงถังขยะข้างโรงอาหาร ตรงที่มันมีเงาตะคุ่มๆแล้วก็บอกว่า เนี่ย ตรงนี้มีผีนกโดนหักคอตาย ด้วยนะ เห็นเงานั่นมั้ย...   แค่นี้ก็ทำให้จ๋ากลัวจนไม่กล้าเดินออกไปทิ้งขยะตอนกลางคืนได้แล้ว จ๋าเป็นเด็กขวัญอ่อนจึงหลงเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่หลายปีจนขึ้น ม.ต้น ได้เลยมั้ง ถึงจะเริ่มเข้าใจว่าตรงนั้นไม่มีผีนก

เอาเป็นว่าตอนกลางคืน โรงอาหารและสวนไผ่ก็เป็นสถานที่ๆแลดูน่ากลัวอยู่ดี คลับคล้ายคลับคลาว่ามีวันที่เรามองลงมาจากบ้าน(ซึ่งเป็นอาคารเรียนเก่า)ชั้นสอง มองมาในสวนไผ่ และเห็นเงาตะคุ่มๆเหมือนคนเดินบ้างไหม ช่วงหนึ่งชาวบ้านในบ้านพักครูก็เคยเล่ากันว่ามีคนเคยเห็นผีผู้หญิงผมยาวใส่ชุดขาวอยู่ระหว่างโรงอาหารเก่ากับสวนไผ่, แม้แต่ที่เสาธงเก่าก็ยังมีเรื่องเล่าว่ามีดวงวิญญาณเด็กติดอยู่ที่นั่น หลายๆเรื่องเล่าดูเกลื่อนกลืนปนเปกันไปหมดระหว่างเรื่องหลอก กับเรื่องลือ จนไม่สามารถแยกแยะออกเลยว่ามีส่วนไหนที่จริงบ้านหรือไม่ หรือว่าแค่ผู้ใหญ่หลอกไม่ให้เด็กออกไปวิ่งเล่นตอนกลางคืนเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย  แต่ก็มีเรื่องจริงอยู่ที่ว่า เคยมีการนำพระและหมอผีมาทำพิธีถอนดวงวิญญาณ และสวดส่งดวงวิญญาณของผู้ตายให้ไปสู่สุขคติในโรงเรียนหัวหินจริงๆ

เมื่อก่อนพื้นที่โรงเรียนหัวหินเคยเป็นป่าช้าของหัวหิน (ข้อมูลหลังจากนี้จ๋าเองไม่ยืนยันเรื่องความถูกต้องนะคะ เพราะเพียงแต่ได้ยินได้ฟังคำบอกเล่าต่อกันมาจากคนเฒ่าที่บ้าน) ซึ่งสัมพันธ์กับแบบแปลนของวัดหัวหินเดิม เดิมวัดหัวหินจะหันหน้าวัดไปทางทะเล เมื่อก่อนคนเราสัญจรทางน้ำ เพราะฉะนั้นประตูด้านหน้าของวัดหัวหินในปัจจุบันจะเป็นประตูหลังในอดีตซึ่งก็คือ "ประตูผี" เป็นประตูที่ใช้นำร่างของคนตายออกจากวัดเพื่อนำไปทำพิธีศพที่ป่าช้าซึ่งก็คือบริเวณโรงเรียนหัวหินปัจจุบันนั้นเอง

โรงเรียนหัวหินได้รับบริจาคที่ดินจากวัดให้นำมาสร้างเป็นโรงเรียน ที่ตั้งของโรงเรียนเคยเป็นสุสาน แม้จะเคยมีการเก็บรวบรวมเอากระดูกและอัฐิต่างๆออกไปจนหมดแล้วก็ยังพอหลงเหลือร่องรอยที่บอกเล่าเรื่องราวได้บ้าง เช่น เจดีย์ชาวบ้านที่เก็บอัฐิของบรรพบุรุษชาวหัวหินยังคงอยู่ในโรงเรียนมาชั่วลูกหลานเป็นมรดกให้จดจำ

เอาล่ะ โรงเรียนหัวหินตอนนี้ก็เป็นยุคสมัยใหม่หมดแล้ว คงไม่มีกลิ่นอาย บรรยากาศเก่าๆ เรื่องเล่าผีอะไรเต็มโรงเรียนไปหมดล่ะมั้ง.  แล้วพวกเราก็อย่านึกสนุกไปเล่นผีถ้วยแก้วหรืออะไรแผลงๆที่โรงเรียนแล้วกัน เพราะมีเพื่อนเราเคยจับกลุ่มเล่นผีถ้วยแก้วกันจนผีเข้า ต้องนิมนต์พระมาสวดที่โรงเรียนแล้วก็มี

คืนนี้ก็มีเรื่องเล่าเท่านี้ ถ้าใครนอนไม่หลับก็กลับบ้านไปอ่านหนังสือนะ อย่าเที่ยวออกมาเดินเล่นตอนดึกๆ เดี๋ยวเจออะไร